เมนู

(7) 2. ยมกวคฺโค

1-7. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา

[61-67] ทุติยสฺส ปฐมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิฯ สตฺตเม นฬกปานเกติ เอวํนามเก นิคเมฯ ปุพฺเพ กิร (ชา. อฏฺฐ. 1.1.19 อาทโย) อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปิโยนิยํ นิพฺพตฺโต มหากาโย กปิราชา หุตฺวา อเนกสตวานรสหสฺสปริวุโต ปพฺพตปาเท วิจริ, ปญฺญวา โข ปน โหติ มหาปญฺโญฯ โส ปริสํ เอวํ โอวทติ, ‘‘ตาตา, อิมสฺมิํ ปพฺพตปาเท วิสผลานิ โหนฺติ, อมนุสฺสปริคฺคหิตา โปกฺขรณิกา นาม โหนฺติ, ตุมฺเห ปุพฺเพ ขาทิตปุพฺพาเนว ผลานิ ขาทถ, ปีตปุพฺพาเนว ปานียานิ ปิวถ, เอตฺถ โว ปฏิปุจฺฉิตกิจฺจํ นตฺถี’’ติฯ เต อปีตปุพฺพํ ทิสฺวา สหสาว อปิวิตฺวา สมนฺตา ปริธาวิตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ โอโลกยมานา นิสีทิํสุฯ มหาสตฺโต อาคนฺตฺวา ‘‘กิํ, ตาตา, ปานียํ น ปิวถา’’ติ อาหฯ ตุมฺหากํ อาคมนํ โอโลเกมาติฯ ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ สมนฺตา ปทํ ปริเยสมาโน โอติณฺณปทํเยว อทฺทส, น อุตฺติณฺณปทํฯ อทิสฺวา ‘‘สปริสฺสยา’’ติ อญฺญาสิฯ ตาวเทว จ ตตฺถ อภินิพฺพตฺตอมนุสฺโส อุทกํ ทฺเวธา กตฺวา อุฏฺฐาสิ – เสตมุโข, นีลกุจฺฉิ, รตฺตหตฺถปาโท, มหาทาฐิโก, วนฺตทาโฐ, วิรูโป, พีภจฺโฉ, อุทกรกฺขโสฯ โส เอวมาห – ‘‘กสฺมา ปานียํ น ปิวถ, มธุรํ อุทกํ ปิวถ, กิํ ตุมฺเห เอตสฺส วจนํ สุณาถา’’ติฯ มหาสตฺโต อาห ‘‘ตฺวํ อธิวตฺโถ อมนุสฺโส’’ติ? อามาหนฺติฯ ‘‘ตฺวํ อิธ โอติณฺเณ ลภสี’’ติ อาหฯ อาม, ตุมฺเห ปน สพฺเพ ขาทิสฺสามีติฯ น สกฺขิสฺสสิ ยกฺขาติฯ ปานียํ ปน ปิวิสฺสถาติฯ อาม, ปิวิสฺสามาติฯ เอวํ สนฺเต เอกมฺปิ วานรํ น มุญฺจิสฺสนฺติฯ ‘‘ปานียญฺจ ปิวิสฺสาม, น จ เต วสํ คมิสฺสามา’’ติ นฬํ อาหราเปตฺวา โกฏิยํ คเหตฺวา ธมิฯ สพฺโพ เอกจฺฉิทฺโท อโหสิฯ ตีเร นิสีทิตฺวาว ปานียํ ปิวิฯ เสสวานรานมฺปิ ปาฏิเยกฺกํ นฬํ อาหราเปตฺวา ธมิตฺวา อทาสิฯ สพฺเพ เต ปสฺสนฺตสฺเสว ปานียํ ปิวิํสุฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทิสฺวา ปทมนุตฺติณฺณํ, ทิสฺวาโนตริตํ ปทํ;

นเฬน วาริํ ปิสฺสาม, เนว มํ ตฺวํ วธิสฺสสี’’ติฯ (ชา. 1.1.20);

ตโต ปฏฺฐาย ยาว อชฺชทิวสา ตสฺมิํ ฐาเน นฬา เอกจฺฉิทฺทาว โหนฺติฯ อิมสฺมิญฺหิ กปฺเป กปฺปฏฺฐิยปาฏิหาริยานิ นาม จนฺเท สสลกฺขณํ (ชา. 1.4.61 อาทโย), วฏฺฏชาตเก (ชา. 1.1.35) สจฺจกิริยฏฺฐาเน อคฺคิชาลสฺส อาคมนุปจฺเฉโท, ฆฏีการสฺส มาตาปิตูนํ วสนฏฺฐาเน อโนวสฺสนํ (ม. นิ. 2.291), โปกฺขรณิยา ตีเร นฬานํ เอกจฺฉิทฺทภาโวติฯ อิติ สา โปกฺขรณี นเฬน ปานียสฺส ปิวิตตฺตา ‘‘นฬกปานกา’’ติ นามํ ลภิฯ

อปรภาเค ตํ โปกฺขรณิํ นิสฺสาย นิคโม ปติฏฺฐาสิ, ตสฺสปิ ‘‘นฬกปาน’’นฺเตฺวว นามํ ชาตํฯ ตํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นฬกปาเน’’ติฯ ปลาสวเนติ กิํสุกวเนฯ

ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ พฺยาปนิจฺฉายํ อิทํ อาเมฑิตวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ยํ ทิส’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อนุวิโลเกตฺวาติ เอตฺถ อนุ-สทฺโท ‘‘ปรี’’ติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘ตโต ตโต วิโลเกตฺวา’’ติฯ กสฺมา อาคิลายติ โกฏิสหสฺสหตฺถินาคานํ พลํ ธาเรนฺตสฺสาติ โจทกสฺส อธิปฺปาโยฯ อาจริโย ปนสฺส ‘‘เอส สงฺขารานํ สภาโว, ยทิทํ อนิจฺจตาฯ เย ปน อนิจฺจา, เต เอกนฺเตเนว อุทยวยปฺปฏิปีฬิตตาย ทุกฺขา เอวฯ ทุกฺขสภาเวสุ เตสุ สตฺถุกาเย ทุกฺขุปฺปตฺติยา อยํ ปจฺจโย’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ปิฏฺฐิวาโต อุปฺปชฺชิ, โส จ โข ปุพฺเพกตกมฺมปจฺจยาฯ เอตฺถาห ‘‘กิํ ปน ตํ กมฺมํ, เยน อปริมาณกาลํ สกฺกจฺจํ อุปจิตวิปุลปุญฺญสมฺภาโร สตฺถา เอวรูปํ ทุกฺขวิปากมนุภวตี’’ติ? วุจฺจเต – อยเมว ภควา โพธิสตฺตภูโต อตีตชาติยํ มลฺลปุตฺโต หุตฺวา ปาปชนเสวี อโยนิโสมนสิการพหุโล จรติฯ โส เอกทิวสํ นิพฺพุทฺเธ วตฺตมาเน เอกํ มลฺลปุตฺตํ คเหตฺวา คาฬฺหตรํ นิปฺปีเฬสิฯ เตน กมฺเมน อิทานิ พุทฺโธ หุตฺวาปิ ทุกฺขมนุภวิฯ ยถา เจตํ, เอวํ จิญฺจมาณวิกาทีนมิตฺถีนํ ยานิ ภควโต อพฺภกฺขานาทีนิ ทุกฺขานิ, สพฺพานิ ปุพฺเพกตสฺส วิปากาวเสสานิ, ยานิ กมฺมปิโลติกานีติ วุจฺจนฺติฯ วุตฺตญฺเหตํ อปทาเน (อป. เถร 1.39.64-96) –

‘‘อโนตตฺตสราสนฺเน, รมณีเย สิลาตเล;

นานารตนปชฺโชเต, นานาคนฺธวนนฺตเรฯ

‘‘มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน, ปเรโต โลกนายโก;

อาสีโน พฺยากรี ตตฺถ, ปุพฺพกมฺมานิ อตฺตโนฯ

‘‘สุณาถ ภิกฺขโว มยฺหํ, ยํ กมฺมํ ปกตํ มยา;

ปิโลติกสฺส กมฺมสฺส, พุทฺธตฺเตปิ วิปจฺจติฯ

[1]

‘‘มุนาฬิ นามหํ ธุตฺโต, ปุพฺเพ อญฺญาสุ ชาติสุ;

ปจฺเจกพุทฺธํ สุรภิํ, อพฺภาจิกฺขิํ อทูสกํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, นิรเย สํสริํ จิรํ;

พหู วสฺสสหสฺสานิ, ทุกฺขํ เวเทสิ เวทนํฯ

‘‘เตน กมฺมาวเสเสน, อิธ ปจฺฉิมเก ภเว;

อพฺภกฺขานํ มยา ลทฺธํ, สุนฺทริกาย การณาฯ

[2]

‘‘สพฺพาภิภุสฺส พุทฺธสฺส, นนฺโท นามาสิ สาวโก;

ตํ อพฺภกฺขาย นิรเย, จิรํ สํสริตํ มยาฯ

‘‘ทส วสฺสสหสฺสานิ, นิรเย สํสริํ จิรํ;

มนุสฺสภาวํ ลทฺธาหํ, อพฺภกฺขานํ พหุํ ลภิํฯ

‘‘เตน กมฺมาวเสเสน, จิญฺจมาณวิกา มมํ;

อพฺภาจิกฺขิ อภูเตน, ชนกายสฺส อคฺคโตฯ

[3]

‘‘พฺราหฺมโณ สุตวา อาสิํ, อหํ สกฺกตปูชิโต;

มหาวเน ปญฺจสเต, มนฺเต วาเจสิ มาณเวฯ

‘‘ตตฺถาคโต อิสิ ภีโม, ปญฺจาภิญฺโญ มหิทฺธิโก;

ตญฺจาหํ อาคตํ ทิสฺวา, อพฺภาจิกฺขิํ อทูสกํฯ

‘‘ตโตหํ อวจํ สิสฺเส, กามโภคี อยํ อิสิ;

มยฺหมฺปิ ภาสมานสฺส, อนุโมทิํสุ มาณวาฯ

‘‘ตโต มาณวกา สพฺเพ, ภิกฺขมานํ กุเล กุเล;

มหาชนสฺส อาหํสุ, กามโภคี อยํ อิสิฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, ปญฺจ ภิกฺขุสตา อิเม;

อพฺภกฺขานํ ลภุํ สพฺเพ, สุนฺทริกาย การณาฯ

[4]

‘‘เวมาตุภาตรํ ปุพฺเพ, ธนเหตุ หนิํ อหํ;

ปกฺขิปิํ คิริทุคฺคสฺมิํ, สิลาย จ อปิํสยิํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เทวทตฺโต สิลํ ขิปิ;

องฺคุฏฺฐํ ปิํสยี ปาเท, มม ปาสาณสกฺขราฯ

[5]

‘‘ปุเรหํ ทารโก หุตฺวา, กีฬมาโน มหาปเถ;

ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวาน, มคฺเค สกลิกํ ขิปิํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, อิธ ปจฺฉิมเก ภเว;

วธตฺถํ มํ เทวทตฺโต, อภิมาเร ปโยชยิฯ

[6]

‘‘หตฺถาโรโห ปุเร อาสิํ, ปจฺเจกมุนิมุตฺตมํ;

ปิณฺฑาย วิจรนฺตํ ตํ, อาสาเทสิํ คเชนหํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, ภนฺโต นาฬาคิรี คโช;

คิริพฺพเช ปุรวเร, ทารุโณ สมุปาคมิฯ

[7]

‘‘ราชาหํ ปตฺถิโว อาสิํ, สตฺติยา ปุริสํ หนิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, นิรเย ปจฺจิสํ ภุสํฯ

‘‘กมฺมุโน ตสฺส เสเสน, อิทานิ สกลํ มม;

ปาเท ฉวิํ ปกปฺเปสิ, น หิ กมฺมํ วินสฺสติฯ

[8]

‘‘อหํ เกวฏฺฏคามสฺมิํ, อหุํ เกวฏฺฏทารโก;

มจฺฉเก ฆาติเต ทิสฺวา, ชนยิํ โสมนสฺสกํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, สีสทุกฺขํ อหู มม;

สพฺเพ สกฺกา จ หญฺญิํสุ, ยทา หนิ วิฏฏูโภฯ

[9]

‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยิํ;

ยวํ ขาทถ ภุญฺชถ, มา จ ภุญฺชถ สาลโยฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เตมาสํ ขาทิตํ ยวํ;

นิมนฺติโต พฺราหฺมเณน, เวรญฺชายํ วสิํ ตทาฯ

[10]

‘‘นิพฺพุทฺเธ วตฺตมานมฺหิ, มลฺลปุตฺตํ นิเหฐยิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, ปิฏฺฐิทุกฺขํ อหู มมฯ

[11]

‘‘ติกิจฺฉโก อหํ อาสิํ, เสฏฺฐิปุตฺตํ วิเรจยิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, โหติ ปกฺขนฺทิกา มมฯ

[12]

‘‘อวจาหํ โชติปาโล, สุคตํ กสฺสปํ ตทา;

กุโต นุ โพธิ มุณฺฑสฺส, โพธิ ปรมทุลฺลภาฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, อจริํ ทุกฺกรํ พหุํ;

ฉพฺพสฺสานุรุเวลายํ, ตโต โพธิมปาปุณิํฯ

‘‘นาหํ เอเตน มคฺเคน, ปาปุณิํ โพธิมุตฺตมํ;

กุมฺมคฺเคน คเวสิสฺสํ, ปุพฺพกมฺเมน วาริโตฯ

‘‘ปุญฺญปาปปริกฺขีโณ, สพฺพสนฺตาปวชฺชิโต;

อโสโก อนุปายาโส, นิพฺพายิสฺสมนาสโวฯ

‘‘เอวํ ชิโน วิยากาสิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อคฺคโต;

สพฺพาภิญฺญาพลปฺปตฺโต, อโนตตฺเต มหาสเร’’ติฯ (อป. เถร 1.39.64-96);

อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9-10. ปฐมกถาวตฺถุสุตฺตาทิวณฺณนา

[69-70] นวเม (ที. นิ. ฏี. 1.17; ที. นิ. อภิ. ฏี. 1.17; สํ. นิ. ฏี. 2.5.1080) ทุคฺคติโต สํสารโต จ นิยฺยาติ เอเตนาติ นิยฺยานํ, สคฺคมคฺโค, โมกฺขมคฺโค จฯ ตํ นิยฺยานํ อรหติ, นิยฺยาเน วา นิยุตฺตา, นิยฺยานํ วา ผลภูตํ เอติสฺสา อตฺถีติ นิยฺยานิกาฯ วจีทุจฺจริตสํกิเลสโต นิยฺยาตีติ วา อีการสฺส รสฺสตฺตํ, ยการสฺส จ กการํ กตฺวา นิยฺยานิกา, เจตนาย สทฺธิํ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิฯ ตปฺปฏิปกฺขโต อนิยฺยานิกา, ตสฺสา ภาโว อนิยฺยานิกตฺตํ, ตสฺมา อนิยฺยานิกตฺตาฯ ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํฯ เคหสฺสิตกถาติ เคหปฺปฏิสํยุตฺตาฯ กมฺมฏฺฐานภาเวติ อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตจตุสจฺจกมฺมฏฺฐานภาเวฯ

สห อตฺเถนาติ สาตฺถกํ, หิตปฺปฏิสํยุตฺตนฺติ อตฺโถฯ ‘‘สุรากถา’’ติปิ ปาโฐติ อาห ‘‘สุรากถนฺติ ปาฬิยํ ปนา’’ติฯ สา ปเนสา กถา ‘‘เอวรูปา นวสุรา ปีตา รติชนนี โหตี’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, อาทีนววเสน ปน ‘‘อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิกา’’ติอาทินา นเยน วฏฺฏติฯ เตนาห ‘‘อเนกวิธํ…เป.… อาทีนววเสน วฏฺฏตี’’ติฯ วิสิขาติ ฆรสนฺนิเวโสฯ วิสิขาคหเณน จ ตนฺนิวาสิโน คหิตา ‘‘คาโม อาคโต’’ติอาทีสุ วิยฯ เตเนวาห ‘‘สูรา สมตฺถา’’ติ จ ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ จฯ กุมฺภฏฺฐานปฺปเทเสน กุมฺภทาสิโย วุตฺตาติ อาห ‘‘กุมฺภทาสิกถา วา’’ติฯ